084-307XXXX tot59317@gmail.com

วิธีรักษาฝ้าแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ

Share it Please
53edbeb430403

เวลามีฝ้าเกิดขึ้นที่หน้าจะทำให้เรามีใบหน้าไม่ขาวใส เรียบเนียน สีผิวบริเวณใบหน้าไม่สม่ำเสมอ เหมือนเป็นจุดกระดำกระด่าง
ยิ่งในกรณีที่เป็นฝ้าขึ้นหนา บางครั้งอาจทำให้สีผิวของคุณเปลี่ยนกันไปได้เลย โดยมากแล้วฝ้ามักมีสีน้ำตาลอมดำ และสีดำ สำหรับขนาดจะแตกต่างกันออกไป ทั้งเล็ก และใหญ่ หรือเกิดเป็นเพียงจุดๆ บริเวณที่มักเกิดเป็นฝ้ามากก็จะได้แก่ บริเวณ โหนกแก้ม สันจมูก หรือบริเวณหน้าผาก ฝ้ามักจะพบเกิดขึ้นในคนที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไป และผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่แล้วฝ้ามักเกิดจากปัญหาของการถูกแสดงแดดเป็นเวลานานมากเกินไป แต่ก็มีสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน แต่ก่อนที่จะรู้วิธีการรักษาฝ้าเรามาดูประเภทของฝ้าแต่ละชนิดกันก่อนดีกว่า
ฝ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
ประเภทที่เป็นแบบฝ้าตื้น และแบบฝ้าลึก บางครั้งเราอาจจะเป็นฝ้าชนิดใดชนิดหนึ่งขึ้นบนใบหน้า แต่ในบางครั้งก็สามารถเป็นฝ้าได้ทั้งสองแบบที่บริเวณใบหน้าได้เช่นเดียวกัน
1. ฝ้าชนิดตื้น เป็นฝ้าที่เกิดบริเวณผิวหนังกำพร้า หรือก็คือผิวหนังชั้นนอก มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล ฝ้าชนิดตื้นจะรักษาให้หายได้เร็ว
2. ฝ้าแบบชนิดลึก เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นในบริเวณผิวที่ลึกกว่าฝ้าชนิดตื้น มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลถึงสีดำ มีขอบชัด การรักษาจะทำได้ยากกว่าฝ้าแบบชนิดตื้น
สาเหตุของการเกิดฝ้า
การเกิดฝ้าสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เป็นปัจจัยประกอบ แต่ละคนจะมีสาเหตุในการเกิดฝ้าที่แตกต่างกันออกไป เพราะการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนประกอบด้วย โดยสาเหตุของการเกิดฝ้าสามารถแบ่งได้ ดังต่อไปนี้
วิธีรักษาฝ้าแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
1. แสงแดด
แสงแดดถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการเกิดฝ้า โดยเฉพาะในบ้านเราที่มีแสงแดดค่อนข้างแรงเกือบทุกฤดู เพราะในแสงแดดมีแสงอุลตราไวโอเลตหรือยูวี ที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้าบนผิวหน้า โดยเฉพาะในช่วงเวลา 09.00 น. – 15.00 น. จะเป็นช่วงที่มีแสงอุลตราไวโอเลตมากที่สุด ดังนั้นแล้วเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรหาวิธีการป้องกัน เช่น การทาครีมกันแดด การสวมหมวก การกางร่มที่สามารถป้องกันแสงอุลตราไวโอเลตหรือแสงยูวีได้
2. ฮอร์โมน

ฮอร์โมนในร่างกายก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เม็ดสีผิวทำงานผิดปกติ เช่นในช่วงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือในวัยหมดประจำเดือน
3. ยา
การรับประทานยาบางกลุ่ม ก็มีผลทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน เช่น ยาคุมกำเนิด หรือยากันชักบางชนิด
4. เครื่องสำอาง
การใช้เครื่องสำอาง แล้วเกิดอาการแพ้ อาจทำให้เกิดรอยดำเป็นฝ้าได้
5. พันธุกรรม
มีผลการวิจัยระบุว่าพันธุกรรมมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาการเป็นฝ้าได้เช่นเดียวกัน ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นฝ้า
6. สิว
การเกิดสิว เป็นเวลานาน พอแผลหาย มักทิ้งรอยดำไว้ ถ้าทำการรักษาที่ไม่ถูกวิธีรอยดำที่เกิดจากรอยสิวจะทำให้เกิดเป็นฝ้าในที่สุด
วิธีรักษาฝ้าแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
วิธีการป้องกันและการรักษาฝ้า
เมื่อทราบสาเหตุของการเกิดฝ้าแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสาเหตุดังกล่าว ก็จะสามารถทำให้ฝ้าที่เป็นหายไปได้
- ถ้าฝ้าที่เป็นเกิดจากแสงแดด เราควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทุกครั้งที่ออกแดดควรป้องกันแสงแดดกระทบกับผิวหน้า เช่น การทาครีมกันแดด การสวมหมวก หรือการหาผ้าคลุมหน้า เป็นต้น  เพราะถ้าฝ้าเกิดจากแสงแดดเพียงทาครีมกันแดดเป็นประจำฝ้าก็จะสามารถค่อยๆ จางลงแล้วหายไปในที่สุด แต่ก็ควรหลบเลี่ยงแดดด้วย ไม่เช่นนั้นฝ้านอกจากจะไม่หายแล้วอาจจะดำยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม หรือเมื่อหายแล้วอาจจะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก
- กรณีที่ฝ้าเกิดจากโฮโมน เช่น คุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ หลังจากที่คลอดน้องแล้ว ฝ้าอาจจะหายไปได้เอง ถ้าไม่หายสามารถใช้ครีมทาฝ้าชนิดอ่อนๆ ทาบางๆ ก็จะสามารถหายไปได้
- ถ้าเกิดจากการรับประทานยาเพียงแค่เราหยุดรับประทานยาดังกล่าวฝ้าก็จะสามารถหายไปได้ แต่ถ้าไม่สามารถหยุดรับประทานยาได้ เช่น ยากันชักบางประเภท ควรทำการปรึกษาแพทย์
- ถ้าเป็นฝ้าที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง ควรหยุดใช้เครื่องสำอางที่เกิดอาการแพ้ ถ้าฝ้ายังไม่หายควรปรึกษาแพทย์ ทาครีมรักษาฝ้า
- ฝ้าที่เกิดจากรอยแผลสิว ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อใช้ครีมรักษาฝ้าที่ถูกกับอาการ
วิธีรักษาฝ้าแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
วิธีรักษาฝ้าด้วยสูตรจากธรรมชาติ
น้ำส้มสายชู
โดยวิธีนำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน นำมาล้างทำความสะอาดหน้า น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่
หอมหัวใหญ่
วิธีทำให้ปั่นหอมหัวใหญ่ให้ละเอียด เอาแต่น้ำ แล้วนำมาผสมกับน้ำส้มสายชู โดยให้ใช้เป็นน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล จากนั้นให้นำมาทางบริเวณที่เป็นฝ้าวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น วิธีนี้จะสามารถช่วยทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลงได้
น้ำมะนาว
น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำมาทาบริเวณผิวหน้าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลอกออกของเซลล์ผิวที่อยู่ด้านบน จึงสามารถช่วยทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลงได้ นอกจากจะช่วยให้ฝ้าจางลงได้แล้วน้ำมะนาวยังช่วยทำให้คุณมีผิวหน้าขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย