084-307XXXX tot59317@gmail.com

ความจริงเรื่องผิวพรรณที่สาว 30 ต้องรู้

Share it Please
การดูแลสิวสำหรับสาววัย-30-1

ความจริงเรื่องผิวพรรณที่สาว 30 ต้องรู้ (Health Plus)
Jacqule Carter ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณของเฮอร์บาร์ไลท์ ออสเตรเลีย
ไขความกระจ่างกับเราเกี่ยวกับปัญหาที่สาวสามสิบ กำลังอยากรู้ว่าทำไมใบหน้าของพวกเธอถึงแก่ก่อนวัย พวกเธอควรบำรุงผิวส่วนไหนมากเป็นพิเศษ อาหารที่ทานเข้าไปช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณของพวกเธอได้จริงหรือเปล่า มาดูกันสิว่า ความจริงข้อใดบ้างที่คุณควรได้รับการแนะนำ

ปัญหาผิวที่ผู้หญิงกลุ้มมากที่สุด
          ปัญหาที่ผู้หญิงคิดไม่ตกนั้น จะเป็นปัญหาผิวพรรณแลดูแก่กว่าวัย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก ผิวเหี่ยวย่น ดูไม่ชุ่มชื้น เหล่านี้ล้วนประกอบกันเป็นปัญหาผิวพรรณที่ดูแก่กว่าวัยสำหรับสาววัยทำงานที่ต้องเข้าๆ ออกๆ ห้องแอร์อยู่บ่อยๆ ดิฉันขอแนะนำให้พกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นติดกระเป๋าไว้ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์นั้น สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นซึ่งเป็นเกราะป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นและปัญหาผิวได้ในเบื้องต้น

 คอลลาเจน พระเอกที่ช่วยคุณได้
          คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผิวเราคงสภาพเดิมไว้มากที่สุด โดยเฉพาะคอลลาเจนบนผิวหน้า เปรียบได้กับอิฐที่เราใช้สร้างบ้าน แรกๆ อาจจะดูเรียงตัวสวยงาม แต่เมื่อไรก็ตามที่อิฐถูกฝุ่นละอองแสงแดด มลพิษต่างๆ ทำให้มันเริ่มสะเปะสะปะดูแห้งๆ หมองๆ ผิวของเราก็เช่นเดียวกัน คือคอลลาเจนเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ได้ผิวหนังที่จะทำให้ผิวพรรณคงความยืดหยุ่นอยู่นานเท่านาน ผู้หญิงที่เลยวัย 30 มักถามเสมอว่า ทำไมเวลาอายุมากผิวถึงเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึงเหมือนสมัยสาวๆ ฉันก็จะตอบไปตามที่บอกไปข้างต้น จะว่าไปแล้วการสร้างพื้นฐานหรือสร้างคอลลาเจนให้ผิวพรรณสมบูรณ์ตั้งแต่เด็กๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก พออายุมากคอลลาเจนจะค่อยๆ ลดลง สิ่งที่สังเกตได้อย่างแรกเลยคือ ริ้วรอยแห่งวัย ที่มาก่อนปัญหาอื่น สาวๆ หลายคนที่มาปรึกษาฉัน ส่วนมากจะผ่านการฉีด ทาหรือผลักคอลลาเจนมาก่อน สิ่งที่ทำนั้นมันช่วยได้น้อยมาก เพราะคอลลาเจนต้องมาจากร่างกายสร้างขึ้นมาเท่านั้น

 หน้าแก่ไม่เกี่ยวกับวัยเสมอไป
          สาวๆ หลายคนมาปรึกษาฉันว่า วัยรุ่นควรดูแลผิวอย่างไร เลยสามสิบไปแล้วควรดูแลอย่างไร ซึ่งฉันก็ตกใจกับคำถามที่กำลังกังวล แต่ต้องตอบกลับไปว่า ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจก่อนว่า การดูแลผิวไม่เกี่ยวข้องกับช่วงอายุเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ รูปแบบการใช้ชีวิตของคนคนนั้นว่าเป็นอย่างไรต่างหาก มีปัจจัยหลักอยู่ 2 อย่างที่จะทำให้สภาพผิวของเราดูเสื่อมไป ข้อแรก คือ กาลเวลา ข้อสอง คือสภาพแวดล้อม เป็นสองปัจจัยหลักๆ ที่มีผลกับผิวพรรณโดยตรง แถมยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะชะลอให้ปัญหาผิวเกิดช้าลงได้

ดวงตาเป็นหน้าต่างบ่งบอกสุขภาพผิว
          พื้นผิวบริเวณรอบดวงตา จุดที่สาวๆ ปล่อยปละละเลยนั่นแหละค่ะ เป็นส่วนที่ต้องได้รับการบำรุงมากเป็นพิเศษ สำหรับวัยทำงานทั้งหลายคือคุณนอนดึกหรือเปล่า ระวังนะคะ วันดีคืนดีตื่นมาตาอาจเป็นหมีแพนด้าได้ง่ายๆ อยากให้หาผลิตภัณฑ์ทั่วไปนี่แหละ ที่มีส่วนผสมของ ว่านหางจระเข้ ชาเขียว แตงกวา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นรอบดวงตา เพราะบริเวณนี้จะแห้งขาดน้ำและมอยส์เจอไรเซอร์ได้ง่ายๆ ทำให้ริ้วรอยรอบตาคล้ำ ถุงใต้ตามาเยือนได้ง่ายมากๆ
สำหรับปาร์ตี้ เกิร์ล ถ้าอยากมีดวงตาเปล่งประกาย ก่อนไปงานปาร์ตี้พยายามอย่าทานอาหารเค็มจัด อย่าดื่มน้ำเปล่าก่อนนอนประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขณะนอนให้หมอนอยู่ในระดับแบนราบ เหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้ตาบวมหรือเกิดถุงได้ตาได้เป็นอย่างดี อีกอย่างคอลลาเจนบนชั้นผิวก็ยังคงอยู่ ซึ่งมันสำคัญมากในการที่จะช่วยให้รอบดวงตาคุณแลดูสุขภาพดีได้

 อาหารผิวอยู่รอบตัวคุณ
          สาวๆ ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณไว้ นอกจากจะต้องมองหาเครื่องประทินผิวเพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวพรรณแล้ว การเลือกรับประทานอาหาร หรือการควบคุมภาวะแวดล้อมก็เป็นสิ่งจำเป็น อาหารผิวจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณคงความชุ่มชื่นสดใส ได้แก่ อาหารจำพวกเนื้อปลาต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และยังมีเซเลเนียม ช่วยชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกายได้เป็นอย่างดี
          น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันจากพืช ซึ่งแม้จะมีแคลอรี่สูงก็จริง แต่ก็มีกรดไขมันชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงและเป็นไขมันชั้นดี โดยเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และในน้ำมันมะกอกยังมีส่วนประกอบของวิตามินเอ และวิตามินอี ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวดูอ่อนวัยคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม
  นอกจากนี้ ยังมีอาหารประเภทธัญพืชต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ งา และถั่วอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าของวิตามินบีสูง รวมถึงวิตามินอี ซึ่งจะช่วยสร้างและรักษาความแข็งแรงของเซลล์ให้เสื่อมสภาพช้าลง ผักสดและผลไม้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินสูง โดยเฉพาะวิตามินเอ ที่ช่วยให้ผิวหนังไม่แห้งและยังสดใสเปล่งปลั่ง วิตามินซีซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเส้นใย คอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ผิวพรรณของใบหน้าดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่น ผักสดและผลไม้ จึงควรเป็นอาหารที่บรรจุไว้ในเมนูอาหารทุกมื้อโดยผลไม้ที่มีวิตามิซีมาก ได้แก่ ส้ม สับปะรด ฝรั่ง มะเขือเทศและมะนาว ส่วนผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอมาก ได้แก่ กล้วย มะละกอ กีวี แคนตาลูป ฟักทอง แครอท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างน้อย คุณผู้หญิงที่ต้องการให้ผิวแลดูมีน้ำมีนวล ไม่ควรลืมดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น รักษาความยืดหยุ่นของผิว ปกป้องผิวหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนัก และการเกิดเซลลูไลต์ได้อย่างดีอีกด้วย แจ๊คกี้ กล่าวทิ้งท้าย